6 สุดยอดนักเขียนที่โลกไม่มีวันลืม

Last updated: 18 มี.ค. 2566  |  49884 จำนวนผู้เข้าชม  | 

6 สุดยอดนักเขียนที่โลกไม่มีวันลืม

แนะนำนักเขียนในตำนานที่ผู้อ่านทั่วโลกต่างกล่าวถึง

นักเขียนทั้ง 6 คนเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็น   นักเขียนคลาสสิค  เพราะผลงานของพวกเขาอยู่ในระดับเข้าขั้น!

หนังสือ CLASSIC คือผลงานที่ดี --- หนังสือ CLASSIC ไม่ใช่หนังสือที่อ่านยาก

พูดอีกอย่างคือ ที่หนังสือเหล่านั้นเป็นงาน Classic ไม่ใช่เพราะมันยาก  แต่เป็นเพราะ 'มันดีและมีคุณค่า' 

งานเขียนที่ดีจึงไม่ขึ้นกับเวลา เพราะมันจะคงอยู่ไปตลอดกาล

เชิญพบกับเหล่านักเขียนที่ 'ชีวิตหนึ่งของการเป็นนักอ่าน' ควรได้อ่านผลงานพวกเขา
============

คลิกสั่งซื้อ SET หนังสือจาก 6 สุดยอดนักเขียน

============




เฮอร์แมน เมลวิลล์ (Herman Melville) American Author
ผู้เขียน บาร์เทิลบี (Bartleby, the Scrivener)

นักเขียนชื่อดังหลายคนได้รับอิทธิพลและยกย่องเมลวิลล์ - อัลแบร์ กามู (Albert Camus) เยินยอผลงานของเมลวิลล์อยู่เสมอ รวมถึงนวนิยายเรื่อง Billy Budd, Sailor ที่โด่งดังในแวดวงวรรณกรรมฝรั่งเศส

นักอ่านทั่วโลกย่อมต้องเคยได้ยินชื่อหนังสือ Moby-Dick นวนิยายไล่ล่าวาฬยักษ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 'วรรณกรรมชิ้นเอกของอเมริกา' ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานของเมลวิลล์เช่นกัน

และที่ขาดไม่ได้ก็คือ 'บาร์เทิลบี' (Bartleby, the Scrivener) ที่กลายเป็นเรื่องสั้นอเมริกันชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่ง

ดังเช่นที่ จอห์น อัพไดก์ (John Updike) นักเขียนอเมริกันผู้ได้พูลิตเซอร์สาขา Fiction กล่าวไว้ว่า "สรรนิพนธ์รวมเรื่องสั้นอเมริกันเล่มใดจะไม่นับรวมเรื่องสั้น 'บาร์เทิลบี' ก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้"

"...เมลวิลล์เป็นนักเขียนที่ยังร่วมสมัยกระทั่งปัจจุบัน..."
-- The New York Times --

"...เขาคือนักเขียนอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่..."
-- Encyclopædia Britannica --

"...บาร์เทิลบีเป็นเรื่องเกี่ยวกับอภิปรัชญาแห่งความขบถ..."
-- The Guardian--

============




เซอร์ โธมัส มอร์ (Sir Thomas More) English Author
ผู้เขียน ยูโทเปีย (Utopia)

"...โธมัส มอร์ คือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ..."
-- จี.เค. เชสเตอร์ตัน (G.K. Chesterton) --


เป็นเรื่องน่าเศร้าหรือไม่ หากคนคนหนึ่งที่ซื่อตรงต่อศรัทธาของตัวเอง แต่กลับต้องชีวิตลงด้วยการถูกประหาร!

เซอร์ โธมัส มอร์ (Sir Thomas More) ศรัทธาคริสต์ศาสนาลัทธิคาทอลิก และคัดค้านการแยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิกของอังกฤษและไม่เห็นด้วยกับการหย่าร้างระหว่างพระเจ้าเฮนรีกับพระนางแคเธอรินแห่งอารากอน

มอร์ก็ถูกจำคุกด้วยข้อหาการกบฏ เพราะไม่ยอมรับพระราชบัญญัติการสืบราชสันตติวงศ์ ค.ศ. 1533 ซึ่งมีเนื้อหาดูหมิ่นอำนาจพระสันตะปาปาและยอมรับโมฆะกรรมดังกล่าว

"..เขาเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ยิ่งกว่าหิมะขาว เป็นอัจฉริยะผู้ที่อังกฤษไม่เคยมีมาก่อนและจะไม่มีวันมีอีกตลอดไป..."
-- อีเรสมัส (Erasmus: 1466-1536) --

โธมัส มอร์ ได้เขียนหนังสือเล่มสำคัญ ยูโทเปีย (Utopia) หนังสือที่เป็นต้นแบบของคำว่า utopia หรือ 'สังคมอุดมคติ' ที่เราๆ ท่านๆ ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ยูโทเปีย คือ 'ที่ที่ดี' และ 'ที่ที่ไม่มีอยู่จริง' แต่ทำไม... 'ที่ที่ดี' มันถึง 'ไม่มีอยู่จริง'

แปลโดย สมบัติ จันทรวงศ์ กูรูทางปรัชญาการเมืองและปรัชญาคลาสสิค นับเป็นสำนวนสุดคลาสสิคที่ควรได้อ่านสักครั้งในชีวิต

Best Utopian Books Everyone Should Read หนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งที่ทุกคนควรอ่าน
-- interestingliterature.com --

============




จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell) English Author
ผู้เขียน หนึ่ง-เก้า-แปด-สี่ (1984)

จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell) ผู้เขียน หนึ่ง-เก้า-แปด-สี่ (1984) ผ่านประสบการณ์โชกโชน ทั้งทำงานล้างจาน ทำงานในร้านหนังสือ ทำงานในโรงงาน และผู้สื่อข่าว

ภาพชีวิตที่ผ่านสายตาของออร์เวลล์ไม่เคยสูญเปล่า อย่างเช่น The Road to Wigan Pier, Down and Out in Paris and London และ Animal Fram

แต่นิยายที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักมากที่สุดชิ้นหนึ่งในโลกภาษาอังกฤษ และเป็นหนังสือที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยก็คือ หนึ่ง-เก้า-แปด-สี่ (1984)

วรรณกรรมว่าด้วยอำนาจและการเมืองที่ไม่ว่าจะจับไปวางในบริบทอำนาจใดในโลก ก็ไม่เคยล้าสมัยลงแม้แต่น้อย! ได้รับการยกย่องจากสื่อต่างๆ เช่น

100 Greatest Novels of All Time -- The Guardian --
100 Novels Everyone Should Read -- The Telegraph --
100 Greatest British Novels -- BBC --
100 Best Novels -- Modern Library --

ค.ศ.1949 ปีแรกที่หนังสือตีพิมพ์ ยอดขายหนังสือสูงถึง 400,000 เล่ม


หนังสือเล่มนี้ยังร่วมสมัยจนถึงปัจจุบันอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อภาพยนตร์เรื่อง 1984 ถูกนำมาฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์กว่า 90 แห่งทั่วอเมริกาเพื่อประท้วง 'ทรัมป์' และยอดจำหน่ายหนังสือพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
============




เอช. จี. เวลส์ (H. G. Wells) English Author
ผู้เขียน เดอะ ไทม์ แมชชีน (The Time Machine) และ ดินแดนคนตาบอด (The Country of the Blind)

นักเขียนชาวอังกฤษผู้มีผลงานเขียนกว่า 100 เรื่องในหลากหลายแนว ทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย บทความ และสารคดี ผลงานที่สร้างชื่อและทำให้เป็นที่จดจำมากที่สุดคืองานเขียนประเภทนิยายวิทยาศาสตร์ อย่าง The Time Machine (1895), The Invisible Man (1897) และ The War of the Worlds (1898) มีผู้นำงานเขียนจำนวนมากของเวลส์มาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อดัง

เอช. จี. เวลส์ ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของนวนิยายวิทยาศาสตร์ร่วมสมัย โดยมีคู่แข่งคนสำคัญร่วมสมัยเดียวกันคือ จูลส์ เวิร์น (Jules Verne: 1828 - 1905) แตกต่างกันที่เวลส์นั้นเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์เชิงสังคมโดยแฝงทัศนคติทางการเมืองส่วนตัวแทรกเข้าไปด้วย

นิยายเรื่องแรก The Time Machine เป็นเรื่องราวของนักเดินทางที่ใช้ยานพาหนะที่เรียกว่า ‘ไทม์ แมชชีน’ เดินทางท่องเวลาไปปี ค.ศ.802701

นิยายเรื่องนี้เสียดสีการแบ่งแยกชนชั้นของอังกฤษ วิจารณ์ความก้าวหน้าของสังคมอุตสาหกรรม และกล่าวถึงเรื่องเวลาในฐานะที่เป็นมิติที่สี่ได้น่าทึ่ง หลายปีหลังจากนั้น ไอน์สไตน์ (Albert Einstein: 1879 - 1955) จึงพิมพ์ทฤษฎีว่าด้วยมิติของอวกาศและกาลเวลา

นอกจากนี้ เวลส์ยังมีผลงานนิยายขนาดสั้นเล่มหนึ่งชื่อ The Country of the Blind หรือในชื่อภาษไทยคือ ดินแดนคนตาบอด -- เรื่องราวการผจญภัยไปในดินแดนลึกลับที่มีแต่คนตาบอด โดยเวลส์ได้ใช้นิยายเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความบกพร่องของมนุษย์ในการตีความหมาย การวิพากษ์ และการพิจารณาถึงความจริง
============




แมรี เชลลีย์ (Mary Shelley) English Author
ผู้เขียน แฟรงเกนสไตน์ หรือ โพรมีธีอัสยุคใหม่
(Frankenstein; or, The Modern Prometheus)

แมรี เชลลีย์ (Mary Shelly: 1797 - 1851) นักเขียนหญิงผู้ประทับชื่อไว้ในประวัติศาสตร์วรรณกรรมอังกฤษในวัยเพียงยี่สิบปี ด้วยงานเขียนอันเป็นตำนาน อย่าง 'แฟรงเกนสไตน์' 

ทันทีที่งานเขียนของเธอปรากฏ ก็ได้รับกระแสตอบรับอันรุนแรงว่าเป็นงานที่เพ้อฝัน ไร้สาระ และขัดต่อศีลธรรม จนส่งผลต่อปฏิกิริยาต่อต้านจากผู้ศรัทธาในนามของศาสนาคริสต์

เรื่องราวการเดินทางที่จะนำผู้อ่านจมดิ่งลงไปสัมผัสถึงความโหยหาในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่ถูกฉีกทึ้งอย่างไร้ความเมตตา เปิดเผยเบื้องหลังชื่อ 'แฟรงเกนสไตน์' ที่ไม่ใช่ชื่อ 'สัตว์ประหลาดน่ากลัว' อย่างที่เข้าใจกัน แต่สัตว์ที่ประหลาดที่คุณนึกถึงนั้น 'ไม่มีชื่อ' ด้วยซ้ำ!

นี่คือหนึ่งในตัวละครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกวรรณกรรม และติดอันดับหนังสือ 'ทรงคุณค่า' และ 'ต้องอ่าน' จากสื่อระดับสากล

100 Greatest Novels of All Time -- The Guardian --
100 Novels Everyone Should Read -- The Telegraph --
100 Greatest British Novels -- BBC --
100 Greatest Novels of All Time -- The Observer --

============




วิลเลียม ซอเมอร์เซ็ท มอห์ม (W. Somerset Maugham) British Author
ผู้เขียน ชั่วใบระริกไหว (The Trembling of a Leaf)

"นักเขียนร่วมสมัยที่ผมเชื่อว่ามีอิทธิพลต่อผมมากที่สุดก็คือ ซอเมอร์เซ็ท มอห์ม นั่นเอง ผมชื่นชมเขามากที่เล่าเรื่องได้ตรง มีแต่เนื้อล้วน"
จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell)

"เขาคือหนึ่งในนักเขียนคนโปรดของผม"
กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ (Gabriel Garcia Marquez)

"ความสำเร็จของมอห์มนั้นใหญ่หลวงยิ่ง เรื่องสั้นถือเป็นงานที่เขาถนัดโดยแท้ หลายเรื่องที่เขียนยังถือเป็นเรื่องชั้นเยี่ยมเท่าที่มีปรากฏในวรรณกรรมอังกฤษ"
แอนโธนี เบอร์เกส (Anthony Burgess)

คงไม่ต้องอธิบายให้มากความสำหรับความยิ่งใหญ่ของนักประพันธ์ผู้นี้ 'วิลเลียม ซอเมอร์เซ็ท มอห์ม' หากคุณต้องการเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องลึกในจิตใจของมนุษย์ทุกคน ความปลิ้นปล้อนลวงหลอกของผู้คน ความอ่อนแอ ความเห็นแก่ได้  ---  คุณต้องไม่พลาด 'ชั่วใบระริกไหว' เล่มนี้

มอห์มได้รับอิทธิพลในการเขียนจากนักเขียนฝรั่งเศสซึ่งล้วนมีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 อย่าง กีย์ เดอ โมปัสซังต์ (Guy de Maupassant) / กุสตาฟท์ โฟลแบรต์ (Gustave Flaubert) / เอมิล โซลา (Emile Zola)

สไตล์การเขียนของมอห์มถูกจัดอยู่ในสกุลธรรมชาตินิยม ที่เน้นการถ่ายทอดความรู้สึกออกมาตรงๆ เพราะเขาเชื่อว่าวิธีการเขียนแบบนี้เผยให้เห็นชีวิตและความเป็นมนุษย์อย่างที่มันเป็น
============

หนังสือทั้ง 7 เล่ม จากนักเขียน 6 คน -- พูดได้อย่างเต็มปากว่า Classic -- Classic is always Modern.
========================

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้