Last updated: 31 ต.ค. 2568 | 7 จำนวนผู้เข้าชม |
 
                    แนะนำ 10 วรรณกรรมคลาสสิคสยองขวัญ สำหรับอ่านในค่ำคืนวันฮาโลวีน..,
วันฮาโลวีนไม่ได้เป็นที่รู้จักกันแค่ในนามของเทศกาลแห่งการรังสรรค์คอสตูมหรือตระเวนเดินขอขนมด้วยคำพูดติดปากว่า ‘Trick or Treat’ เพียงเท่านั้น แต่มันยังถือเป็นค่ำคืนอันสมบูรณ์แบบสำหรับการดำดิ่งลงไปสู่รากเหง้า ‘ความสยองขวัญและลึกลับ’ ซึ่งเป็นกลิ่นอายอันเป็นลักษณ์ของ ‘วรรณกรรมคลาสสิคแนวโกธิค’ (Gothic Literature) — ที่มักมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ หรูหรา แต่กลับน่าขนลุก! รวมไปถึงได้สัมผัสจิตใจอันบิดเบี้ยวของตัวละครเป็นองค์ประกอบหลัก
สำนักพิมพ์สมมติได้คัดสรร 'วรรณกรรมคลาสสิคแนวโกธิค' ขึ้นหิ้งตลอดกาลจำนวน 10 เล่ม -- 10 เรื่องราวขนหัวลุกที่เหมาะกับการอ่านในวันฮาโลวีน ซึ่งเมื่ออ่านจนถึงหน้าสุดท้าย รับรองได้เลยว่าคุณจะจดจำค่ำคืนปล่อยผีปีนี้ไปแบบไม่มีวันลืม...
1. Frankenstein (Mary Shelley, 1818)
วรรณกรรมที่ใครหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจากเวอร์ชันหนังสือหรือสื่อบันเทิงอื่นๆ เรื่องราวว่าด้วยการทดลองของ ดร. วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ (Victor Frankenstein) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่หมกมุ่นกับการสร้าง ‘สิ่งมีชีวิต’ ขึ้นมาจากซากศพที่ตลบอบอวลไปด้วย ‘ความตาย’ แต่เรื่องราวกลับไม่ได้สวยหรูอย่างที่วาดฝันไว้ เมื่อผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็น ‘สัตว์ประหลาด’ ที่แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่กล้าที่จะยอมรับมัน และนอกจากความสยองขวัญ ‘Frankenstein’ ยังพาไปสำรวจถึงประเด็นของ ‘ความเป็นมนุษย์’ ได้อย่างนุ่มลึกและน่าประทับใจ
2. Dracula (Bram Stoker, 1897)
สุดยอดวรรณกรรมแวมไพร์สุดอมตะที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิทานและตำนานพื้นบ้านหลากหลายเรื่อง เรื่องราวว่าด้วยทนายความนามว่า โจนาธาน ฮาร์เกอร์ (Jonathan Harker) ที่ได้เดินทางไปทำธุรกิจยังปราสาทของ เคานต์ แดร็กคูล่า (Count Dracula) ผู้เป็นขุนนางชาวทรานซิลเวลเนีย ก่อนจะต้องหลบหนีไปหลังค้นพบความลับอันดำมืด ว่าชายผู้เป็นเจ้าของปราสาทนั้นคือ ‘แวมไพร์’ ปีศาจแสนชั่วร้ายกระหายเลือดในตำนาน และนอกจากความสยองขวัญ Dracula ของ Bram Stoker ยังเป็นวรรณกรรมที่บันทึกความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์การระบาดของ ‘กาฬโรค’ ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง
3. The Strange Case of Dr. Jekyll and Mr. Hyde (Robert Louis Stevenson, 1886)
เล่าเรื่องราวของ กาเบรียล จอห์น อัตเทอร์สัน (Gabriel John Utterson) นักกฎหมายชาวลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ประหลาดระหว่างเพื่อนเก่าของเขาอย่าง ‘ดร. เฮนรี เจคิลล์’ (Dr. Henry Jekyll) และอาชญากรที่มีนามว่า ‘เอ็ดเวิร์ด ไฮด์’ (Edward Hyde) โดยเหตุการณ์นี้ได้พาเขาเข้าไปเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ของผู้ที่ต้องการใช้ด้านมืดทางวิทยาศาสตร์ในการแยกแยะ ‘ความดี-ความชั่ว’ ออกจากคำว่า ‘ตัวตน’ ของมนุษย์ โดยวรรณกรรมคลาสสิคแนวโกธิคเรื่องนี้มีอิทธิพลมากๆ ต่อโลกใบนี้ จนถึงขนาดที่มีการนำคำว่า ‘Jekyll and Hyde’ มาใช้เรียกแทนคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันสุดขั้วด้วย
4. The Picture of Dorian Gray (Oscar Wilde, 1890)
นิยายเรื่องเดียวในชีวิตของ Oscar Wilde ที่โด่งดังและดีเด่นในเรื่องการวิพากษ์ความเสื่อมทรามและความเยาว์ของมนุษย์จนถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นภาพยนตร์ ละครเวที และการแสดงทางศิลปะในรูปแบบอื่นๆ อีกหลายครั้ง ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘เบซิล ฮอลล์วาร์ด’ (Basil Hallwards) จิตรกรที่ได้วาดภาพสีน้ำมันของ ‘ดอเรียน เกรย์’ (Dorian Gray) ชายหนุ่มรูปงานจากตระกูลผู้ดีร่ำรวยในประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะแนะนำให้เขารู้จักกับ ‘ลอร์ด เฮนรี่ วัตตัน’ (Lord Henry Wotton) ผู้ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตของเขา และเรื่องราวประหลาดก็เกิดขึ้นเมื่อ ดอเรียน เกรย์ ในภาพวาดค่อยๆ แก่และเสื่อมทรามลง แต่ในตัวจริงกลับยังคงความเยาว์เอาไว้แม้คืนวันจะคล้อยผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด
5. The Turn of the Screw (Henry James, 1898)
เล่าเรื่องราวของครูพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่ได้รับการว่าจ้างให้ดูแล ไมล์ส (Miles) กับ ฟอลร่า (Flora) เด็กสองคนที่เป็นคู่พี่น้องกัน ในบ้านพักตากอากาศแถบชานเมืองของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จนเกิดเรื่องราวประหลาดๆ ที่ทำให้เธอมีความเชื่อว่า ‘หรือเด็กทั้งสองคนอาจถูกผีสิง?’ และนอกจากความสยองขวัญแล้ว มันยังท้าทายให้ผู้อ่านตั้งคำถามว่าเรื่องทั้งหมดที่เธอเห็นเป็น ‘ความจริง’ หรือเพียง ‘ภาพลวงตา’ จากจินตนาการของเธอเท่านั้น
6. Rebecca (Daphne du Maurier, 1938)
นิยายสยองขวัญกึ่งระทึกขวัญแนวโกธิคสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างดีตลอดมาจนถูกดัดแปลงไปเป็นสื่อบันเทิงต่างๆ อีกหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันของ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก (Alfred Hitchcock) ในปี ค.ศ.1940 ซึ่งโด่งดังและถูกพูดถึงมาจนปัจจุบัน โดย Rebecca เล่าเรื่องราวของหญิงสาวนิรนามที่แต่งงานกับชายหม้ายผู้ร่ำรวยอย่างกะทันหัน ก่อนจะพบว่าทั้งตัวเขาและครอบครัวของเขายังคงวนเวียนอยู่กับความทรงจำของภรรยาเก่าผู้ล่วงลับไปแล้ว
7. The Haunting of Hill House (Shirley Jackson, 1959)
เป็นนิยายที่ได้รับว่าการขนามนามว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวสยองขวัญเกี่ยวกับ ‘บ้านผีสิง’ ที่ดีที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง และได้ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นซีรี่ส์ทาง Netflix ที่โด่งดังเรื่องหนึ่งเช่นเดียวกัน โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ดร. จอห์น มอนทากิว (Dr. John Montague) ได้เช่าคฤหาส์หลังหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘Hill House’ และได้เชิญกลุ่มคนผู้ที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติเพื่อเข้ามาร่วมศึกษาปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่อาจเกิดขึ้นในคฤหาสน์หลังนี้
8. Wuthering Heights (Emily Brontë, 1847)
นิยายเรื่องเดียวของนักเขียนหญิงชาวอังกฤษอย่าง Emily Brontë เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสองครอบครัวชนชั้นสูงที่อาศัยอยู่บริเวณทุ่งโล่งกว้างและเกิดโศกนาฏกรรมความรักขึ้น โดย Wuthering Height ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนิยายภาษาอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และยังกลายเป็นที่ถกเถียงถึงการเขียนพรรณนาความโหดร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจของตัวละคร ความรุนแรงในครอบครัว รวมไปถึงการกล้าท้าทายต่อขนบศีลธรรม ศาสนา และระบบชนชั้นในยุควิกตอเรียอีกด้วย
9. The Phantom of the Opera (Gaston Leroux,1910)
วรรณกรรมสุดคลาสสิคในตำนานที่ใครหลายน่าจะพอคุ้นหูหรือเคยได้ทำความรู้จักกับมันมาแล้วเป็นอย่างดี โดยเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่โรงอุปรากรปารีสในช่วงศตวรรษที่ 19 เล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่ผสมผสานความรักโรแมนติคเข้ากับกลิ่นอายของความสยองขวัญได้อย่างลงตัว เมื่อ ‘ผีแห่งโอเปรา’ ผู้มีพรสวรรค์และใบหน้าพิกลพิการที่อาศัยอยู่ใต้โรงละครโอเปร่า ต้องการแสดงความรักและความต้องการของเขาในรูปแบบที่น่าขนพองสยองเกล้าเกินจะบรรยาย
10. The Legend of Sleepy Hollow (Washington Irving, 1820)
เล่าเรื่องราวของ ‘อิคาบอด เครน’ (Ichabod Crane) ครูใหญ่ผู้เชื่อในเรื่องโชคลาง และเป็นคู่แข่งกับ ‘บรอม โบนส์’ (Brom Bones) นักเลงประจำเมือง ในศึกการแย่งชิงหัวใจของ ‘แคทรีนา แวน แทสเซิล’ (Katrina Van Tassel) และในระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับบ้านอยู่นั้นก็ได้ถูกไล่ล่าอย่างปริศนาโดยชายหัวขาดในตำนานจนนำไปสู่เรื่องราวลึกลับสยองขวัญ และ ‘อัศวินหัวขาดแห่งเมือง Slepp Hollow’ ก็ได้กลายเป็นตัวละครสุดไอคอนิกประจำเทศกาลฮาโลวีนไปโดยปริยาย 
วรรณกรรมคลาสสิคแนวโกธิคที่คัดสรรมาทั้ง 10 เล่มนี้ เป็นเสมือนประตูบานสำคัญที่นำทางไปสู่ดินแดนแห่งความหวาดกลัว และไม่ว่าคุณจะเลือกดำดิ่งสู่ความสยองขวัญในรูปแแบบไหน เชื่อเถอะว่ามันจะช่วยเติมเต็มความหวาดผวาให้กับค่ำคืนที่มืดมิดในวันฮาโลวีนได้เป็นอย่างดี
..,
และสำหรับใครที่อยากลองสัมผัสความสยองด้วยตัวเอง เราขอแนะนำหนังสือที่สนพ.ตีพิมพ์
แฟรงเกนไสตน์ หรือ โพรมีธีอัสยุคใหม่ 
(Frankenstein; or, The Modern Prometheus)
นี่คือนวนิยาย Horror ยุคแรกๆ มีตัวเอกเป็นนักวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ยังไม่ถือกำเนิดคำว่า 'นักวิทยาศาสตร์' เลยด้วยซ้ำ!
นี่คือ 1 ใน 100 เล่ม นวนิยายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล [100 Greatest Novels of All Time] — แม้จะเปี่ยมไปด้วยความหลอกหลอน แต่ก็โศกเศร้า และเป็นงานเขียนโกธิคที่งดงาม
และนี่คือหนังสือเล่มสำคัญอีกเล่มหนึ่งของโลก ที่ 'มนุษย์' ควรได้อ่านเพื่อเข้าใจ 'มนุษย์'
สนพ.สมมติขอชวนนักอ่านสัมผัสกับการโหยหาในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่ถูกปล่อยให้ถูกฉีกทึ้งอย่างไร้ความเมตตาในเล่ม แฟรงเกนสไตน์ — หนังสือ 'ทรงคุณค่า' และ 'ต้องอ่าน' จากสื่อระดับสากล
แฟรงเกนสไตน์ หรือ โพรมีธีอัสยุคใหม่
(Frankenstein; or, The Modern Prometheus)
แมรี เชลลีย์ (Mary Shelley) : เขียน
ประสิทธิ์ ตั้งมหาสถิตกุล : แปล
ปิยะวิทย์ เทพอำนวยสกุล : บรรณาธิการ
DESIGN | ● สมมติ STUDIO ● | จิรวัฒน์ รอดอิ่ม
ความหนา : 348 หน้า
ราคาปก 300 บาท
ISBN 978-616-7196-88-6
17 ก.ค. 2563
7 ส.ค. 2567
19 ก.ย. 2565