ทำไมเราถึงเรียกว่า 'ห้องสมุด' ไม่ใช่ 'ห้องหนังสือ'

Last updated: 18 มี.ค. 2566  |  37115 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไมเราถึงเรียกว่า 'ห้องสมุด' ไม่ใช่ 'ห้องหนังสือ'

เปิดรับสมาชิกตลอดชีพรุ่นสาม
ผ่อน 0 % เริ่มต้นเพียง 4,400 บาทต่อเดือน

ผู้อ่านสามารถออกแบบงวดผ่อนชำระเองได้ (ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน) ได้รับหนังสือเมื่อชำระครบ

รายละเอียดคลิก คำประกาศความรู้สึกและจินตนาการใหม่ในการทำสำนักพิมพ์



#รับจำนวนจำกัดเหมือนเดิม
#ปรับราคาขึ้นตามปฏิจจสมุปบาท
#มีระบบผ่อนเหมือนสมาชิกสองรุ่นแรก
#ได้รับหนังสือทุกเล่มที่มีอยู่และจากนี้ตลอดไป
#มีสิทธิพิเศษอื่นอีกหลายอย่างที่มากกว่าเดิม
====================

  • เผยจุดกำเนิดของคำว่า 'ห้องสมุด'
  • 'ห้องสมุด' เกี่ยวอะไรกับประวัติศาสตร์การพิมพ์ของไทย
  • 'สมุดไทย' กับ 'สมุดฝรั่ง' ต่างกันอย่างไร


คำถามชวนฉงนสนเท่ห์ที่มีมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัยสำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจคลั่งไคล้หนังสือ คือ ทำไมเราถึงเรียกสถานที่เก็บรวบรวมหนังสือว่า 'ห้องสมุด' เหตุใดจึงไม่เรียกว่า 'ห้องหนังสือ' ในเมื่อเข้าไปใน 'ห้องสมุด' ก็เห็นแต่หนังสือเต็มไปหมด

เราอาสาพาผู้อ่านย้อนเวลา กลับไปค้นหา สำรวจจุดกำเนิดของสมุดและหนังสือ เพื่อตอบคำถามค้างคาใจ ว่าด้วยเรื่องที่มาของชื่อ 'ห้องสมุด' ซึ่งสัมพันธ์กับบริบททางประวัติศาสตร์การพิมพ์ของไทย

คำว่า 'สมุด' เป็นคำไทยดั้งเดิม ใช้เรียกแผ่นกระดาษที่พับทบไปมาเหมือนพัดด้ามจิ๋ว มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะขีดเขียน บันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงไว้ด้วยลายมือ แล้วสามารถพับเป็นปึกหนาประมาณ 2-3 นิ้ว เรียกว่า 'สมุด'

กระดาษปึกหนึ่งนับเป็นสมุดหนึ่งเล่ม หากจะเทียบกับภาษาปัจจุบัน 'สมุด' ในเวลานั้นก็คือ 'หนังสือ' นั่นเอง บางครั้งก็เรียกหนังสือที่เขียนหรือคัดลอกด้วยมือและทำเป็นเล่มโดยการพับกระดาษทบกันเป็นปึกว่า 'สมุดไทย' ถ้าเป็นหนังสือทางพระพุทธศาสนา หรือเป็นของพระมหากษัตริย์ก็เรียก 'พระสมุด'

หากเรื่องราวที่บันทึกมีขนาดยาวอาจประกอบด้วยสมุดไทยหลายปึกหรือหลายเล่ม สมุดประเภทนี้ได้แก่ คัมภีร์พระไตรปิฎก วรรณกรรมทางศาสนา กฎหมาย ตำรายา หรือตำราโหราศาสตร์ ดังนั้นสถานที่เก็บรวมรวบสมุดจึงได้ชื่อว่า 'ห้องสมุดหรือหอสมุด' นอกจากนี้ ความสามารถในการเขียนได้ อ่านออก ยังเป็นทักษะที่จำกัดอยู่เฉพาะในหมู่ชนชั้นสูง และแวดวงศาสนา ภิกษุ สามเณร ห้องสมุดจึงมักตั้งอยู่ในวัดและพระราชวัง

สมุดลักษณะนี้ใช้กันมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ความนิยมก็เริ่มลดลง เนื่องจากการรับเอาศิลปวิทยาการ เทคโนโลยีการตีพิมพ์ด้วยเครื่องจักร และการเย็บเล่มแบบหนังสือของชาวตะวันตกเข้ามาในประเทศไทย นับตั้งแต่กำเนิดโรงพิมพ์โดยบาทหลวงคาทอลิกเมื่อต้นรัชกาลที่ 1 จนถึงการพิมพ์ยุคหมอบรัดเลย์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 

การพิมพ์ในยุคต้นทำให้เกิดการเผยแพร่องค์ความรู้อย่างกว้างขว้างกว่าการคัดลอกด้วยลายมือ ทำให้ยุคของการคัดลอกด้วยลายมือลงบนสมุดค่อยๆ หายไปจากสังคมไทย และเป็นยุคเริ่มต้นของการใช้ 'สมุดฝรั่ง' เพื่อแทนการใช้ 'สมุดไทย' และกระดาษม้วน ดังที่ปรากฏในประกาศห้ามปี พ.ศ.2397 ซึ่งระบุว่าไม่ให้ทำฎีกาถวายด้วยกระดาษม้วนอีกต่อไป แต่ให้ใช้สมุดอย่างฝรั่งแทน

'หนังสือ' หรือ 'สมุดอย่างฝรั่ง' ที่ผลิตด้วยวิธีการตีพิมพ์ ถูกเก็บรักษาไว้ในห้องสมุดซึ่งเคยเป็นสถานที่รวบรวมสมุดไทยมาก่อน ด้วยเหตุนี้เราจึงยังคงเรียกสถานที่เก็บรวบรวมหนังสือว่า 'ห้องสมุด' เนื่องจากมันเคยเป็นสถานที่เก็บสมุดที่ขีดเขียน ด้วยมือจริงๆ มาก่อน แต่ภายหลัง 'หนังสือ' ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนกระทั่งเข้าแทนที่ 'สมุดไทย'

นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเวลาเข้าห้องสมุด แต่มองไปทางไหนก็เห็นแต่หนังสือ
==================

สนใจสั่งซื้อชุดหนังสือ ราคาพิเศษ Special Set



พบกับ
'หนังสือดี ราคาโดน' ที่ 'ลดแล้ว ลดอีก'

คัดเน้นๆ มาให้ผู้อ่านเลือกสรรกันอย่างครบรส ทุกหมวดหมู่

ทั้งหนังสือแปล / วรรณกรรมคลาสสิค / วรรณกรรมไทย / หนังสือวิชาการและปรัชญา / ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ การเมือง

จัดชุดหนังสืออย่างพิถีพิถัน มากกว่า 40 ชุด
จากหนังสือกว่า 100 ปก ในราคาสุดพิเศษ

โปรดอย่ารอช้า หนังสือบางเล่มเหลือจำนวนจำกัด คลิก!!

หนังสือดี! ราคาโดน! ที่ผู้อ่านไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้