บทสรุปเพื่อเริ่มนับหนึ่ง

Last updated: 30 พ.ค. 2563  |  1968 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บทสรุปเพื่อเริ่มนับหนึ่ง

ตามข้อเท็จจริง ก่อนที่เราจะมีบูธในงานหนังสือ เราอาศัยการฝากขายตามบูธต่างๆ ที่ให้โอกาสในการวางขายหนังสือวรรณกรรมที่รับรู้กันว่าเป็นหมวดหนังสือที่ขายยาก แต่ตามข้อเท็จจริงอีกเช่นกัน การฝากขายหนังสือตามบูธต่างๆ ไม่ใช่เป็นเพียงการให้โอกาสต่อสำนักพิมพ์ที่ยังไม่มีบูธของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความหลากหลายและปริมาณของหนังสือในบูธนั้นๆ ในกรณีที่บูธของตัวเองยังมีหนังสือไม่มากพอ รวมทั้งรายได้จากส่วนต่างของหนังสือฝากขายก็ยังเป็นสัดส่วนที่สำคัญ ไม่แปลก...หากจะมีหนังสือหลายสำนักพิมพ์วางจำหน่ายในบูธ

ถัดจากการเร่ร่อนฝากหนังสือขายตามบูธต่างๆ วาด รวี - บ.ก.วารสารหนังสือใต้ดิน ได้ให้โอกาส สนพ.สมมติ ในการวางขายหนังสือของเราอย่างเต็มที่ในนามของ ‘บูธวารสารหนังสือใต้ดิน’ นี่คือจุดเริ่มต้นของการออกบูธ ทำบูธ และขายหนังสืออย่างเป็นเรื่องเป็นราว เมื่อเราใช้บูธวารสารหนังสือใต้ดินเป็นฐานในการขายหนังสือ เราจึงลดปริมาณการฝากขายตามบูธต่างๆ ด้วยคิดง่ายๆ ว่าเมื่อมีบูธเป็นของตัวเองแล้ว ก็ควรเกรงใจเจ้าของบูธนั้นๆ และควรให้คนอื่นที่ยังไม่มีบูธได้มีพื้นที่ในการวางขาย ดังนั้นสัดส่วนในการฝากขายตามบูธต่างๆ จึงค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ให้หนังสือทุกปกของเราวางอวดตัวเองที่บูธวารสารหนังสือใต้ดิน และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เราคิดถึงการทำบูธให้ดี ให้สวยงาม เรามองบูธในงานหนังสือเป็นเหมือนพื้นที่พบผู้อ่านที่ชอบอ่านหนังสือในแนวทางเดียวกัน ได้พูดคุยเรื่องหนังสือ . . . ใช่ . . . คนทำหนังสือ ได้พูดคุยสบตากับคนอ่านหนังสือ ง่ายๆ แบบนั้น

ปีหนึ่งเราจะได้เจอคนอ่านของเราตัวเป็นๆ ก็ในงานหนังสือนี่แหละ!

พูดก็พูดเถอะ...แม้ว่าเราคิดปรับเปลี่ยนบูธให้เป็นตามที่หวัง แต่ก็ใช่ว่าจะลงตัวและเห็นผลในทันที ในตอนนั้น เราเป็นคนหนุ่มไม่มีประสบการณ์ อายุเพิ่งจะริมๆ วัยเบญจเพส จะไปรู้ประสาอะไรกับการออกแบบบูธ ปรับเปลี่ยนบูธ ยิ่งไม่มีตัวอย่าง ไม่มีบทเรียนจากสำนักพิมพ์อื่นในการจัดบูธ และในสเกลของสำนักพิมพ์ขนาดเล็กด้วยกันแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง สำนักพิมพ์อย่างเราๆ ก็ลุยกันด้วยโต๊ะขาวยาวสองตัวพร้อมผ้าปูโต๊ะสักผืน จะต่อเป็นตัว L (แอล) หรือต่อหน้ากระดาน ก็สุดแท้แต่ความพอใจของเจ้าของบูธนั้นๆ

เมื่อเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ กว่าเราจะมีบูธเป็นของตัวเองในนาม ‘สำนักพิมพ์สมมติ’ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสามปี ตามระเบียบและกติกาที่วางไว้ เราเดาเอาเองว่า สมาคมฯ คงต้องการดูความประพฤติของสมาชิกอย่างน้อยสามปี ว่าเป็นสำนักพิมพ์ที่ควรจะให้พื้นที่ในการออกบูธหรือไม่ แต่ที่น่าจะสมเหตุสมผลก็คือ ระยะเวลาสามปี สำนักพิมพ์ใดก็ตามที่จะออกบูธ ก็น่าจะมีหนังสือของตัวเองจำนวนหนึ่งสำหรับวางขาย ไม่เช่นนั้น ถ้าเปิดสำนักพิมพ์และออกบูธได้ทันที หนังสือในบูธ 99% ก็คงเป็นหนังสือที่สนพ.อื่นๆ นำมาฝากขาย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็คงเป็นเรื่องตลก

แต่เรื่องตลกในสังคมไทยเป็นได้ทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จ เพราะในสองสามปีหลังมานี้ ก็เห็นกันบ่อยๆ ว่า กฎที่ต้องเป็นสมาชิกสมาคมครบสามปีก่อนจะมีบูธ ได้ถูกยกเลิกไป ซึ่งเป็นผลดีของสนพ.เปิดใหม่ที่ไม่ต้องรอวันและเวลา ก็ได้ลงสนามออกบูธขายหนังสือของตัวเองและหนังสือฝากขายกันได้ทันทีที่งานหนังสือ กระทั่งหลายสำนักพิมพ์ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมฯ ก็ยังได้สิทธิ์ในการออกบูธ นี่เป็นความหมายของความใจกว้างและเห็นแก่คนทำหนังสือทั้งหลายโดยแท้ แม้จะละเลยกฎเกณฑ์บางอย่างไปก็ตาม

ใจความสำคัญของสเตตัสนี้หรือในบทความนี้อยู่หลังจากประโยคนี้เป็นต้นไป

สำหรับเรา ในฐานะสำนักพิมพ์ขนาดเล็กและทำงานเฉพาะทางนอกกระแส งานหนังสือเป็นงานสำคัญที่นอกจากจะได้เงินสดจากการขายหนังสือแล้ว เรายังนับพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของการพบปะกับนักอ่าน นักเขียน เป็นพื้นที่แสนวิเศษที่คนทำหนังสือได้เจอกับผู้อ่าน

บูธของเรา พนักงานขายของบูธเรา คือบรรณาธิการ ผู้ช่วยบรรณาธิการ ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ คนออกแบบปก ใช่...เราทำหนังสือกันเอง และขายหนังสือด้วยมือของเราเอง!

ดังนั้นระยะเวลาในการออกบูธไม่ว่าจะครั้งไหนๆ พวกเราต่างได้ยินเสียงคนอ่าน เสียงชม เสียงตำหนิ และเราได้ยินเสียงอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน การออกบูธในงานหนังสือจึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ต้องลงทุนทั้งกายและใจ การออกบูธจึงไม่ใช่เรื่องการขายเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ใช้ราคาเป็นกลไกชี้นำให้ผู้อ่านมาที่บูธ หรืองัดทุกโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม มานำเสนอ โอเค...เราก็ไม่เดียงสาจนเกินไปที่จะยึดติดเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ถ้าทั้งงานจะใช้ราคาเป็นตัวนำ เราก็โอนอ่อนยืดหยุ่นมีลดราคาตามแต่เสียงส่วนใหญ่แทบทุกครั้ง แต่จุดหมายหลักเบื้องลึก คือการจัดวางและออกแบบบูธให้ดี! ต้อนรับผู้อ่าน เปิดบ้านให้ผู้อ่านเข้ามาเลือกซื้อและพูดคุย

เราเริ่มจากเราเองก่อนเป็นเบื้องต้น เราปรับ-เปลี่ยน-แก้ไข-เพิ่มเติม และอะไรต่อมิอะไรอีกมาก ให้บูธมันสมราคากับผู้อ่านที่มีรสนิยมต้องกับเรา เราเริ่มจากตัวเองก่อนก่นด่าผู้อื่น! เราเริ่มยอมรับและแก้ไขปรับปรุงในทุกๆ ครั้งก่อนที่จะป่าวร้องตะโกนหาคนผิด! เพราะไม่ว่าครั้งไหนที่คนอ่านมาน้อย ยอดขายไม่เป็นที่พอใจ ทั้งปัจจัยภายนอกด้านเศรษฐกิจ โลกออนไลน์ วันหยุดยาว จะเผด็จการหรือมีเลือกตั้ง หรือปัจจัยภายในทั้งการเลือกหนังสือมาตีพิมพ์ การออกแบบปก ระบบราคา หรือนโยบายในการสร้างแฟร์ของสมาคมฯ ก็ตามที เราจะเริ่มโทษจากตัวเราเองก่อนเป็นเบื้องต้น

มันจะเป็นอะไรไหม หากเราบอกว่าเราทำหนังสือและเราทำเรื่องวัฒนธรรมการอ่านไปด้วย!

ใครจะว่าอะไรไหม หากพวกเราตัวเล็กๆ สำนักพิมพ์เล็กๆ จะพูดคำใหญ่คำโตอย่างวัฒนธรรมการอ่าน!

งานหนังสือสำหรับเรา จึงไม่ใช่เพียงการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องราคา [ในบูธมีคำอธิบายคร่าวๆ เรื่องราคา ผู้อ่านท่านใดไปที่บูธ คำอธิบายนี้อยู่ที่ผนังด้านข้าง] แต่เป็นเรื่องของบรรยากาศและการสร้างวัฒนธรรมการอ่านในงานหนังสือ

มันไม่มีความจำเป็นใดเลยที่ต้องมางานหนังสือ หากมาแล้วพบแต่โครงสร้างผนังสีเทาติดกันเป็นพืด คละเคล้าด้วยป้ายราคาโปรโมชั่นบนกระดาษ A4

มันไม่มีความจำเป็นใดเลยที่ต้องมางานหนังสือ หากการคลิกซื้อหนังสือออนไลน์จะได้ผลเหมือนกับการมางานหนังสือ และถ้าปัจจัยเรื่องราคามีผลสำคัญ ว่ากันตรงๆ ในออนไลน์ก็ให้ผลที่ดีกว่ามากมาย

ดังนั้นแล้ว ในสากล การที่ผู้อ่านเลือกมางานแฟร์หนังสือ! นอกจากจะมาซื้อหนังสือแล้ว ผู้อ่านยังได้บรรยากาศ ได้ประสบการณ์ ได้เห็นกองหนังสือมากมาย ได้เห็นหลายอย่างที่โลกออนไลน์ไม่มี ได้กลิ่นกระดาษ และกลิ่นอื่นๆ [เราคุยกันเล่นๆ ว่ามันเป็นกลิ่นของงานหนังสือ]

การมองผิดจุดหรือให้ความสำคัญไม่รอบด้านครบเหลี่ยมมุมแล้ว งานแฟร์หลายงานจึงถูกสร้างให้เสียงดังด้วยคำว่าลดราคา โดยลดความสำคัญและบริบทของการร่วมกันสร้างวัฒนธรรมในแฟร์นั้นๆ

ไม่ว่างานหนังสือจะมีผู้อ่านสักกี่มากน้อย ผู้อ่านที่มาที่บูธของเรา คือความหมายและความทรงจำของพวกเราทุกคน เป็นตัวเราเองต่างหากที่ต้องปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน หากว่าทั้งงานหนังสือจะเป็นที่พูดถึงว่าซบเซาหาใช่เรื่องของคนอื่น ระบบอื่น โลกเสมือนอื่นๆ เป็นเราเองต่างหากที่ต้องสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เข้มแข็ง [เราในที่นี้หมายถึงใครบ้าง ก็สุดแท้แต่ผู้อ่านจะจินตนาการกันเอาเอง]

ก็ถ้าวันนั้นมาถึง วันที่สังคมเรามีวัฒนธรรมการอ่านที่พอจะเป็นรูปเป็นร่างได้บ้าง ต่อให้โลกเสมือนและระบบอื่นเป็นอย่างไร บรรยากาศและประสบการณ์ของการมางานหนังสือจะต้องเป็นอีกหนึ่งความทรงจำของผู้อ่าน!
======================

คลิกชมภาพความทรงจำงานหนังสือในครั้งก่อน https://www.sm-thaipublishing.com/gallery/1100/event

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้